วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2561

#สุรินทร์ !!ยายวัย 81 ปี โร่แจ้งศูนย์ดำรงธรรมใน จ.สุรินทร์ สุดช้ำเลี้ยงเหลนรักมากับมือ แถมยกสมบัติที่นาให้ 26 ไร่ กลับถูกเหลนเฉดหัวส่งออกจากบ้าน

 ยายวัย 81 ปี พร้อมญาติ เข้าร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ เพื่อขอความเป็นธรรม หลังมอบมรดกที่นาของบรรพบุรุษให้เหลนรักอายุ 40 ปี จำนวน 26 ไร่ แต่กลับถูกเหลนตอบแทนด้วยการไล่ออกจากบ้าน

ยาย เล่าว่า เกิดมาไม่เคยมีสามีหรือลูก มีแต่หลานและเหลน ที่ผ่านมาคิดว่าจะฝากผีฝากไข้ไว้กับเหลนคนหนึ่งที่เลี้ยงมากับมือ จึงโอนที่นาให้หวังให้ดูแลยามแก่ชรา 
แต่เหลน กลับบีบบังคับ ไล่ออกจากบ้าน แม้แต่อาหารการกินต้องหุงหาเอง บางครั้งถูกเอาหม้อหุงข้าวไปซ่อนไว้ ขณะที่เงินที่เก็บไว้ทั้งชีวิตหายไป 2 ครั้ง มูลค่าเกือบ 4 หมื่นบาท ทุกวันนี้ต้องอยู่แบบหวาดกลัวจะถูกลอบทำร้าย

นายสังวาล คงทน อายุ 47 ปี ผู้ใหญ่บ้าน เผยว่า ที่คุณยายพูดทั้งหมดเป็นความจริง ที่ผ่านมาชาวบ้านก็สงสาร ช่วยเหลือกันมาตลอด
เบื้องต้นทางนายอำเภอท่าตูม ได้รับเรื่องไว้ อยู่ระหว่างสืบหาความจริงและแก้ปัญหาหา ช่วยเหลือคุณยายต่อไป
ที่มา/ข่าวช่อง 8

เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (12 ก.ย. 61) พายุโซนร้อน “บารีจัต” (BARIJAT) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 20.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 114.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง ประมาณ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนผ่านตอนใต้ของเกาะฮ่องกง และเกาะไหหลำ ประเทศจีน ในช่วงวันที่ 13-14 กันยายน 2561 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
        อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “มังคุด” (MANGKHUT) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกมีแนวโน้มการเคลื่อนผ่านเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ และตอนใต้ของเกาะไต้หวัน ในช่วงวันที่ 14-15 กันยายน 2561 หลังจากนั้นจะเคลื่อนลงทะเลจีนใต้ตอนบน และผ่านเกาะฮ่องกง โดยจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ ในช่วงวันที่ 16-18 กันยายน 2561 ตามลำดับ ซึ่งจะส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่รับลมมรสุมด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง รวมถึงดินโคลนถล่ม
        สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 13-18 กันยายน 2561 ไว้ด้วย
        จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือ สายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
        ประกาศ ณ วันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 11.

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “บารีจัต” (BARIJAT) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก คาดว่าจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมบริเวณเกาะไหหลำ ประเทศจีน ในช่วงวันที่ 13-14 ก.ย. 61 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ซึ่งจะส่งผลทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
การคาดหมายการคาดหมายลักษณะ ในช่วงวันที่ 12 – 18 ก.ย. 61 บริเวณประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ สำหรับทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตรข้อควรระวัง   ในช่วงวันที่ 12 – 14 และ 17 – 18 ก.ย. 61 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมต่อเนื่อง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปเกาะฮ่องกงในช่วงวันที่ 13-14 ก.ย. 61 และเกาะลูซอนประเทศฟิลิปปินส์ตอนใต้ของเกาะไต้หวัน และเกาะฮ่องกงในช่วงวันที่ 14-16 ก.ย. 61 ขอให้ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วยเนื่องจากมีพายุอยู่บริเวณดังกล่าว
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา  ในช่วงวันที่ 12 – 18 ก.ย. 61 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมบริเวณทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง อนึ่ง พายุโซนร้อน “บารีจัต” (BARIJAT) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนผ่านตอนใต้ของเกาะฮ่องกง และเกาะไหหลำ ประเทศจีนในช่วงวันที่ 13-14 ก.ย. 61 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังบริเวณเกาะไหหลำ สำหรับพายุไต้ฝุ่น “มังคุด” (MUNGKHUT) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนผ่านเกาะลูซอนประเทศฟิลิปปินส์และตอนใต้ของเกาะไต้หวันในช่วงวันที่ 14-15 ก.ย. 61 หลังจากนั้นจะเคลื่อนลงทะเลจีนใต้ตอนบนและขึ้นฝั่งบริเวณเกาะฮ่องกงและชายฝั่งด้านตอนใต้ของประเทศจีน แล้วผ่านเกาะไหหลำ และประเทศเวียดนามในช่วงวันที่ 16-18 ก.ย. 61 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังบริเวณประเทศเวียดนาม
ภาคเหนือในช่วงวันที่ 12 – 14 และ 17 – 18 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนในช่วงวันที่ 15-16 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงวันที่ 12 – 14 และ 17 – 18 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนในช่วงวันที่ 15-16 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ภาคกลางในช่วงวันที่ 12 – 14 และ 17 – 18 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนในช่วงวันที่ 15-16 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกในช่วงวันที่ 13 – 18 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 16-18 ก.ย. 61ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)ในช่วงวันที่ 13 – 18 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 16-18 ก.ย. 61ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)ในช่วงวันที่ 13 – 18 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 16-18 ก.ย. 61ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑลในช่วงวันที่ 13 – 18 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 17-18 ก.ย. 61ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ที่มาข้อมูล/https://www.tmd.go.th/7-day_forecast.php

วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

"เห็ดนางฟ้าภูฐานดำ" สร้างอาชีพแบบรายวัน วันนี้ขอนำเสนอเห็ดนางฟ้าภูฐานดำ ที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกได้เป็นอย่างดี มีรายได้ถึงวันละ 700-2000 บาท จากขนาดตัวโรงเรือน 3.5 x 5 เมตร บรรจุเห็ดก้อน 2500 ก้อน สามารถเก็บได้ถึงนานถึง 4-6 เดือนต่อรุ่น ซึ่งราคาจำหน่ายเห็ดอยู่ที่ กิโลกรัมละ 60-70 บาท หลังจากที่ได้สอบถามเจ้าของโรงเห็ด บอกว่าคุ้มค่ากับการลงทุนแบบระยะสั้น การดูแลก็ไม่ยากรดน้ำเช้า-เย็น ใช้เวลาแค่ 1 เดือนก็คืนทุน ถือเป็นการสร้างอาชีพอีกทางหนึ่ง พร้อมกันนี้โรงเห็ดนี้ก็ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ดูงานสำหรับผู้ที่สนใจ มาเยี่ยมชมไม่ขาดสาย ที่บ้านกุดเสลา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ขอบคุณข้อมูลและภาพ/ที่มา@ดนุชภร เชื้อพันธ์








วันอังคารที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2560

#ยโสธร-เห็นแล้วสลดใจ..แบบนี้เขาไม่เรียกว่าบ้าน.!!!.3พ่อแม่ลูกอยู่แบบรันทด อำเภอค้อวัง ยโสธร


บอกบุญพี่ๆน้องๆครับ เนื่องด้วยเราทราบข่าวว่า มีครอบครัวเล็กๆครอบครัวหนึ่งอยู่กันแบบ บ้านเพิงพักหลังคาแทบไม่มี มีสังกะสีเก่าๆและไพหญ้าปิดหลังคาเพิงพอได้หลบแดดแต่ฝนคงเอาไม่อยู่


ครอบครัวนี้มีกันอยู่ 3 คน พ่อ แม่ ลูก อยู่กันแบบข้าวแทบไม่มีกินบางวัน เงินไม่มีใช้ ที่นอนห้องน้ำห้องครัวอยู่รวมกัน มีลูกชายวัยเพียง 14 ปีหาเลี้ยงครอบครัวรับจ้างชาวบ้านไปวันๆ เพื่อนำเงินที่ได้มาเลี้ยงครอบครัว แต่เงินที่ได้แต่ละวัน อยู่ที่ 100-150 บาทต่อวัน บางวันไม่มีงานให้ทำก็อดกันไป แต่ด้วยความขยันของน้องตอนเช้าก็เข้าไปวัดรอล้าง บาตรพระ ล้างจานที่วัด เพื่อแลกข้าวอาหารมาให้พ่อกับแม่ทาน ซึ่งพ่อชื่อนาย ยุทธพงษ์ ทองเฟื้อง(ชาตรี) อายุ 45 ปีซึ่งป่วยหลายโรครุมเร้า โรคไตระดับที่ 4 โรคไทลอยเป็นพิษ(ยังทานยาประจำ)และดวงตาเป็นต้อกระจกทั้งสองข้าง ร่างกายไม่ค่อยแข่งแรงจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ออกทำงานเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวไม่ได้ ส่วนแม่ชื่อ นาง นงนุช ทองเฟื้อง(นิด) อายุ 33 ปี ก็มีโรคประจำตัวคือเบาหวานถึงขั้นต้องฉีดยาทุกวันและหนักกว่านั้นคือเบาหวานขึ้นตามองอะไรไม่เห็นมานานกว่า 3 ปีแล้วช่วยเหลือตัวเองก็ลำบากเดินไหนมาไหนด้วยตนเองไม่ได้ แทบไม่ได้ลุกจากที่นอนเลย คงเหลือแต่ เด็กชาย ดนุภพ ประจิต หรือ น้องบอล อายุ 14 ปี หาเลี้ยงครอบครัว

น้องอยากเรียนแต่ไม่มีโอกาสเนื่องด้วยสถานะทางครอบครัว แต่ตอนนี้พึ่งไปสมัครติดต่อเรียน กศน.เพื่อเรียนระดับชั้น ประถมศึกษา ทั้งหมดอาศัยอยู่หมู่บ้านศิริพัฒนา หมู่ 1 ต.น้ำอ้อม อ.ค้อวัง จ.ยโสธร เราจึงนำเรื่องนี้(เคสนี้)มาเล่าบอกบุญพี่ๆน้อง ครับ เราจะรวบรวมแรงจิตรศรัทธาทั้งหลายของท่านเพื่อ สร้างบ้าน สร้างที่อยู่อาศัย สร้างความรัก สร้างความพูกพันให้ แก่ครอบครัวนี้ครับ จะบริจาคมาทางเราหรือจะไปบริจาคด้วยตนเองก็ได้ครับ เราขอเป็นสะพานบุญของพี่ๆน้องครับ เราจะรับบริจาคตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ ร่วมทำบุญบริจาคช่วยเหลือได้ที่ หรือประสานสอบถามได้ที่ อัญฮุก31ยโสธร 080-3339838โทร 080-3339838 อัญฮุก 31 ยโสธร  บัญชีสร้างบ้านให้น้องบอล

ธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 034-3-79526-2ชื่อ น.ส. อำพร สุระขันธ์








@ที่มา อัญฮุก กู้ภัย31 จ.ยโสธร ..ข่าวอาสาอีสานใต้รายงาน

วันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

"ศรีสะเกษ-รวบ2ผู้ต้องหา ตรวจยึดไม้พยูง 14 ท่อน  รับสารภาพได้เสพยาบ้าด้วย"

เมื่อวันที่ 19 พ.ย.60 เวลาประมาณ 21.30 น. ภายใต้การอำนวยการของนายคมป์  สังข์วงษ์  นายอำเภอขุนหาญ ได้มอบหมายให้ น.ส.อมร  นามบุตร  ปลัดอำเภอ รักษาการ หน.กลุ่มงานบริหารงานปกครอง  นายเทพพิทักษ์  เหมือนสวรรค์  ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง  นำกำลังสมาชิก อส.อ.ขุนหาญ ที่ 6 สนธิกำลังร่วมกับ ชป.ขว.ฉก.กรม ทพ.23, ชป.ขว.กกล.ฯ(Et7,Et 19), จนท.ตำรวจ สภ.ขุนหาญ, ร้อย ร.1611, เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส.ภ.จว.ศ.ก. และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ศก.1 ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา  จำนวน  2  ราย
1.  นายวุฒิพงษ์ หรือเล็ก กองแก้ม อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 บ.หนองทุ่ม ม.11 ต.หนองบัวสันตุ อ.ยางศรีสุราช จ.มหาสารคาม
2. นายอุไร หรือปุ้ย เด็ดดวง 35ปี อยู่บ้านเลขที่ 251 บ.ห้วยจันทร์ ม.5 ต.ห้วยจันทร์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ
พร้อมของกลาง
1. เลื่อยมือ จำนวน  5  ปื้น
2. ขวาน จำนวน  2  เล่ม
3. ตลับเมตร  จำนวน 1  อัน
4. จอบ จำนวน 1 ด้าม
5. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง
6. รถจักรยานยนต์ ดัดแปลงพ่วงข้าง ( ซาเล้ง ) ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำแดง จำนวน 1 คัน
7. ไม้พะยูง จำนวน  15 ท่อน/ เหลี่ยม (ปริมาตรรอการตรวจวัด)
   
 หลังได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวทางปกครองว่ามีการลักลอบทำไม้พะยูง ที่บริเวณป่าบ้านห้วยจันทร์ ม.4 ต.ห้วยจันทร์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ  จนท.จึงได้เดินทางไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง  เมื่อเดินทางไปถึงบริเวณป่าทางทิศเหนือบ้านห้วยจันทร์  พิกัด VB 320064  พบกลุ่มผู้ต้องหาและของกลางดังกล่าวอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ  ตรวจปัสสาวะเบื้องต้นพบสารเสพติด  จนท.จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ขุนหาญ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป  โดยมีนายเทพพิทักษ์  เหมือนสวรรค์  ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง  เป็นผู้กล่าวโทษ
1. ในเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ภาคเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องไม้พะยูง  
2. ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การรับสารภาพว่าได้เสพยาบ้าจริง

 เมื่อวันที่ 19 พ.ย.60 เวลาประมาณ 21.30 น. ภายใต้การอำนวยการของนายคมป์  สังข์วงษ์  นายอำเภอขุนหาญ ได้มอบหมายให้ น.ส.อมร  นามบุตร  ปลัดอำเภอ รักษาการ หน.กลุ่มงานบริหารงานปกครอง  นายเทพพิทักษ์  เหมือนสวรรค์  ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง  นำกำลังสมาชิก อส.อ.ขุนหาญ ที่ 6 สนธิกำลังร่วมกับ ชป.ขว.ฉก.กรม ทพ.23, ชป.ขว.กกล.ฯ(Et7,Et 19), จนท.ตำรวจ สภ.ขุนหาญ, ร้อย ร.1611, เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส.ภ.จว.ศ.ก. และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ศก.1 ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา  จำนวน  2  ราย  
 ตรวจปัสสาวะพบผลบวก
ตรวจยึดไม้พะยูงจำนวน 14 ท่อน
พร้อมของกลางอื่นๆ
ข่าวอาสาอีสานใต้..ที่มาแหล่งข่าว@ที่ทำการปกครองอำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ."เกษตรจังหวัดศรีสะเกษมอบใบประกาศนียบัตรแก่ผู้ที่ได้รับรางวัล เกษตรกร"

จ.ศรีสะเกษมอบใบประกาศนียบัตรแก่ผู้ที่ได้รับรางวัลเกษตรกร, สถาบันเกษตรกรและหน่วยงานดีเด่น ระดับจังหวัดประจำปี 2560
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 ที่ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารส่งเสริมเกษตรอินทรีย์วิถีศรีสะเกษ สำนักงานเกษตรจังหวัดศรีสะเกษ นายเมธี สุพรรณฝ่าย รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานมอบใบประกาศนียบัตรแก่ผู้ที่ได้รับรางวัล เกษตรกร, สถาบันเกษตรกรและหน่วยงานดีเด่น ระดับจังหวัดประจำปี 2560 โดยมีนายสว่าง กาลพัฒน์ เกษตรจังหวัดศรีสะเกษ นำเกษตรอำเภอ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร และเกษตรกร จำนวน 231 คน ทั้งนี้เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร ในการพัฒนาผลผลิต ผลิตภัณฑ์ และผลงานทางการเกษตรให้มีคุณภาพ ต่อไป
หลังจากนั้น นายเมธี สุพรรณฝ่าย รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ก็ได้เปิดกิจกรรม เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระดับจังหวัดเพื่อขับเคลื่อน ศพก. ครั้งที่ 1/2561 และการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานตามระบบส่งเสริมการเกษตร ประจำปี 2561 
นายเมธี สุพรรณฝ่าย รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2561 สำนักงานเกษตรจังหวัดศรีสะเกษ กำหนดจัดกิจกรรมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระดับจังหวัดเพื่อขับเคลื่อน ศพก. จำนวน 4 ครั้ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลการปฏิบัติงานส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่ มีการสรุปผลและถ่ายทอดความรู้จากการดำเนินงาน เพื่อเป็นการพัฒนาคน พัฒนางาน รวมทั้งการถ่ายทอดความรู้ทางวิชาการตามสถานการณ์ หรือตามความจำเป็นที่เหมาะสมกับพื้นที่ต่อไป




ที่มา..เครดิต ภาพ/ข่าว ถิรพุทธิ์ คานทอง