วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2561

#สุรินทร์ !!ยายวัย 81 ปี โร่แจ้งศูนย์ดำรงธรรมใน จ.สุรินทร์ สุดช้ำเลี้ยงเหลนรักมากับมือ แถมยกสมบัติที่นาให้ 26 ไร่ กลับถูกเหลนเฉดหัวส่งออกจากบ้าน

 ยายวัย 81 ปี พร้อมญาติ เข้าร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ เพื่อขอความเป็นธรรม หลังมอบมรดกที่นาของบรรพบุรุษให้เหลนรักอายุ 40 ปี จำนวน 26 ไร่ แต่กลับถูกเหลนตอบแทนด้วยการไล่ออกจากบ้าน

ยาย เล่าว่า เกิดมาไม่เคยมีสามีหรือลูก มีแต่หลานและเหลน ที่ผ่านมาคิดว่าจะฝากผีฝากไข้ไว้กับเหลนคนหนึ่งที่เลี้ยงมากับมือ จึงโอนที่นาให้หวังให้ดูแลยามแก่ชรา 
แต่เหลน กลับบีบบังคับ ไล่ออกจากบ้าน แม้แต่อาหารการกินต้องหุงหาเอง บางครั้งถูกเอาหม้อหุงข้าวไปซ่อนไว้ ขณะที่เงินที่เก็บไว้ทั้งชีวิตหายไป 2 ครั้ง มูลค่าเกือบ 4 หมื่นบาท ทุกวันนี้ต้องอยู่แบบหวาดกลัวจะถูกลอบทำร้าย

นายสังวาล คงทน อายุ 47 ปี ผู้ใหญ่บ้าน เผยว่า ที่คุณยายพูดทั้งหมดเป็นความจริง ที่ผ่านมาชาวบ้านก็สงสาร ช่วยเหลือกันมาตลอด
เบื้องต้นทางนายอำเภอท่าตูม ได้รับเรื่องไว้ อยู่ระหว่างสืบหาความจริงและแก้ปัญหาหา ช่วยเหลือคุณยายต่อไป
ที่มา/ข่าวช่อง 8

เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (12 ก.ย. 61) พายุโซนร้อน “บารีจัต” (BARIJAT) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 20.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 114.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง ประมาณ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนผ่านตอนใต้ของเกาะฮ่องกง และเกาะไหหลำ ประเทศจีน ในช่วงวันที่ 13-14 กันยายน 2561 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
        อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “มังคุด” (MANGKHUT) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกมีแนวโน้มการเคลื่อนผ่านเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ และตอนใต้ของเกาะไต้หวัน ในช่วงวันที่ 14-15 กันยายน 2561 หลังจากนั้นจะเคลื่อนลงทะเลจีนใต้ตอนบน และผ่านเกาะฮ่องกง โดยจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ ในช่วงวันที่ 16-18 กันยายน 2561 ตามลำดับ ซึ่งจะส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่รับลมมรสุมด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง รวมถึงดินโคลนถล่ม
        สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 13-18 กันยายน 2561 ไว้ด้วย
        จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือ สายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
        ประกาศ ณ วันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 11.

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “บารีจัต” (BARIJAT) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก คาดว่าจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมบริเวณเกาะไหหลำ ประเทศจีน ในช่วงวันที่ 13-14 ก.ย. 61 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ซึ่งจะส่งผลทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
การคาดหมายการคาดหมายลักษณะ ในช่วงวันที่ 12 – 18 ก.ย. 61 บริเวณประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ สำหรับทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตรข้อควรระวัง   ในช่วงวันที่ 12 – 14 และ 17 – 18 ก.ย. 61 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมต่อเนื่อง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปเกาะฮ่องกงในช่วงวันที่ 13-14 ก.ย. 61 และเกาะลูซอนประเทศฟิลิปปินส์ตอนใต้ของเกาะไต้หวัน และเกาะฮ่องกงในช่วงวันที่ 14-16 ก.ย. 61 ขอให้ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วยเนื่องจากมีพายุอยู่บริเวณดังกล่าว
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา  ในช่วงวันที่ 12 – 18 ก.ย. 61 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมบริเวณทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง อนึ่ง พายุโซนร้อน “บารีจัต” (BARIJAT) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนผ่านตอนใต้ของเกาะฮ่องกง และเกาะไหหลำ ประเทศจีนในช่วงวันที่ 13-14 ก.ย. 61 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังบริเวณเกาะไหหลำ สำหรับพายุไต้ฝุ่น “มังคุด” (MUNGKHUT) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนผ่านเกาะลูซอนประเทศฟิลิปปินส์และตอนใต้ของเกาะไต้หวันในช่วงวันที่ 14-15 ก.ย. 61 หลังจากนั้นจะเคลื่อนลงทะเลจีนใต้ตอนบนและขึ้นฝั่งบริเวณเกาะฮ่องกงและชายฝั่งด้านตอนใต้ของประเทศจีน แล้วผ่านเกาะไหหลำ และประเทศเวียดนามในช่วงวันที่ 16-18 ก.ย. 61 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังบริเวณประเทศเวียดนาม
ภาคเหนือในช่วงวันที่ 12 – 14 และ 17 – 18 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนในช่วงวันที่ 15-16 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงวันที่ 12 – 14 และ 17 – 18 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนในช่วงวันที่ 15-16 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ภาคกลางในช่วงวันที่ 12 – 14 และ 17 – 18 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนในช่วงวันที่ 15-16 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกในช่วงวันที่ 13 – 18 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 16-18 ก.ย. 61ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)ในช่วงวันที่ 13 – 18 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 16-18 ก.ย. 61ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)ในช่วงวันที่ 13 – 18 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 16-18 ก.ย. 61ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑลในช่วงวันที่ 13 – 18 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 17-18 ก.ย. 61ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ที่มาข้อมูล/https://www.tmd.go.th/7-day_forecast.php